- คุ้มครองรถยนต์ใดๆ ที่จดทะเบียนเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคล รวมถึงรถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่นั่งไม่เกิน 12 ที่นั่ง และรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลที่มีน้ำหนักรวมบรรทุกไม่เกิน 4 ตัน
- ไม่คุ้มครองรถยนต์สมรรถนะสูง (Super Car หรือ Sport Car) รถยนต์ที่ดัดแปลงสภาพ มีการติดตั้งอุปกรณ์ เช่น โครงเหล็ก หลังคา หรือมีวัตถุประสงค์เพื่อบรรทุกหรือขนส่ง ผู้โดยสาร หรือสินค้า
- ไม่คุ้มครองการขับขี่รถยนต์เพื่อการพาณิชย์หรือรับจ้าง หรือไม่ใช่วัตถุประสงค์เพื่อการใช้ส่วนบุคคล
- สำหรับการขับขี่รถยนต์แล้วเกิดความเสียหาย เฉพาะรุ่นที่ระบุเงื่อนไขไว้ในกรมธรรม์ ได้แก่ Mercedes Benz , Audi , BMW , Volk , Volvo , Chevrolet จะต้องมีค่าเสียหายส่วนแรก 10,000 บาท ในกรณีที่เป็นฝ่ายผิด
- ผู้เอาประกันภัยต้องมีใบอนุญาตขับขี่ที่ยังมีผลบังคับใช้อยู่ ไม่ถูกเพิกถอน
- ซ่อมอู่ประกันภัย หากเกิดความเสียหายตัวรถจากการชนกับยานพาหนะทางบกที่ระบุคู่กรณีจากการขับขี่ของผู้เอาประกันภัย ให้คิดความเสียหายตามราคามาตรฐานที่สมาคมวินาศภัยไทยร่วมกับสมาคมอู่กลางประกันภัยและสมาคมการซ่อมรถยนต์แห่งประเทศไทยกำหนด
- กรณีไม่มีความเสียหาย มีประวัติดีในปีต่ออายุตามเงื่อนไขที่บริษัทฯ กำหนด

หมวดเงื่อนไขทั่วไป 

การยกเว้นทั่วไป
1. สงคราม
2. สงครามกลางเมือง
3. วัตถุอาวุธปรมาณู
4. การแตกตัวของประจุ การแผ่รังสี 

หมวดความรับผิดต่อบุคคลภายนอก
1. ความเสียหายต่อทรัพย์สินดังต่อไปนี้ จะไม่ได้รับความคุ้มครอง
1.1 ทรัพย์สินที่ผู้เอาประกันภัย เป็นฝ่ายต้องรับผิดตามกฎหมาย คู่สมรส บิดา มารดา บุตรของผู้เอาประกันภัยนั้นเป็นเจ้าของหรือเป็นผู้เก็บรักษา ควบคุม หรือครอบครอง
1.2 เครื่องชั่ง สะพานรถ สะพานรถไฟ ถนน ทางวิ่ง ทางเดิน สนาม หรือสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่อยู่ใต้สิ่งดังกล่าว อันเกิดจากการสั่นสะเทือน หรือจากน้ำหนักรถยนต์ หรือน้ำหนักบรรทุกของรถยนต์
1.3 สัมภาระหรือทรัพย์สินอื่นใดที่นำติดตัวขึ้นบนรถยนต์ หรือทรัพย์สินที่บรรทุกอยู่ในรถยนต์ หรือกำลังยกขึ้น หรือกำลังยกลงจากรถยนต์ หรือทรัพย์สินที่รถยนต์กำลังยกจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง
1.4 ทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหายจากการรั่วไหลของสารเคมีหรือวัตถุอันตรายที่บรรทุกอยู่ในรถยนต์ เว้นแต่การรั่วไหลนั้นเกิดจากอุบัติเหตุจากรถยนต์ หรือการรั่วไหลของแก๊สหรือเชื้อเพลิงเพื่อการเดินเครื่องของรถยนต์
2. การประกันภัยตามหมวดนี้ ไม่คุ้มครองความรับผิดอันเกิดจาก
2.1 การใช้รถยนต์นอกอาณาเขตคุ้มครอง
2.2 การใช้รถยนต์ในทางผิดกฎหมาย เช่น ใช้รถยนต์ไปปล้นทรัพย์ ชิงทรัพย์ หรือใช้ขนยาเสพติดไม่ว่าจะมีการดัดแปลงรถหรือไม่ก็ตาม หรือใช้รถยนต์หลบหนีจากการกระทำความผิดทางอาญา หรือหลบหนีการตรวจค้นหรือการจับกุมของเจ้าหน้าที่ เป็นต้น
2.3 การใช้ในการแข่งขันความเร็ว
2.4 การใช้ลากจูงหรือผลักดัน เว้นแต่รถที่ถูกลากจูงหรือถูกผลักดันได้ประกันภัยไว้กับบริษัทด้วย หรือเป็นรถลากจูงโดยสภาพ หรือรถที่มีระบบห้ามล้อเชื่อมโยงถึงกัน
2.5 ความรับผิดซึ่งเกิดจากสัญญาที่ผู้ขับขี่ทำขึ้น ซึ่งถ้าไม่มีสัญญานั้นแล้ว ความรับผิดของผู้ขับขี่จะไม่เกิดขึ้น
2.6 การขับขี่โดยผู้เอาประกันภัยซึ่งในขณะขับขี่ให้ถือว่าเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่นตามกฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก ดังนี้
2.6.1 ปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด เกินกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ หรือ
2.6.2 มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกินกว่า 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ กรณีการขับขี่โดยผู้เอาประกันภัยซึ่งมีอายุต่ำกว่ายี่สิบปีบริบูรณ์ หรือโดยผู้เอาประกันภัยที่มีใบอนุญาตขับรถชั่วคราว หรือโดยผู้เอาประกันภัยที่ไม่มีใบอนุญาตขับรถหรืออยู่ระหว่างพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับรถ หรือ
2.6.3 กรณีไม่ยินยอมให้เจ้าพนักงานจราจร พนักงานสอบสวน หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ ทดสอบวัดปริมาณแอลกอฮอล์ จนถูกดำเนินคดีฐานขับ รถขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่นตามกฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก และผู้เอาประกันภัยได้ยอมรับหรือศาลได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดลงโทษใน
ความผิดดังกล่าว
2.7 การขับขี่โดยผู้เอาประกันภัยซึ่งขณะขับขี่มีสารเสพติดตามกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ หรือมีสารที่ออกฤทธิ์ต่อจิต และประสาทตามกฎหมายว่าด้วยวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิต และประสาทในร่างกาย จนถูกดำเนินคดีตามกฎหมายว่าด้วยจราจรทางบก และผู้เอาประกันภัยได้ยอมรับหรือศาลได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดลงโทษในความผิดดังกล่าว

หมวดความเสียหายต่อรถยนต์จากการชนกับยานพาหนะทางบก
การยกเว้นความเสียหายต่อรถยนต์ การประกันภัยนี้ไม่คุ้มครอง
1. การเสื่อมราคา หรือการสึกหรอของรถยนต์
2. การแตกหักของเครื่องจักรกลไกของรถยนต์ หรือการเสีย หรือการหยุดเดินของเครื่องจักรกลไก หรือเครื่องไฟฟ้าของรถยนต์อันมิได้เกิดจากอุบัติเหตุ
3. ความเสียหายโดยตรงต่อรถยนต์ อันเกิดจากการบรรทุกน้ำหนัก หรือจำนวนผู้โดยสารเกินกว่าที่ได้รับอนุญาตอันมิได้เกิดจากอุบัติเหตุ
4. ความเสียหายต่อยางรถยนต์ อันเกิดจากการฉีกขาด หรือการระเบิด เว้นแต่กรณีมีความเสียหายเกิดขึ้นต่อส่วนอื่นของรถยนต์ในเวลาเดียวกัน
5. ความเสียหายอันเกิดจากการขาดการใช้รถยนต์ เว้นแต่การขาดใช้รถยนต์นั้นเกิดจากบริษัทประวิงการซ่อม หรือซ่อมล่าช้าเกินกว่าที่ควรจะเป็นโดยไม่มีเหตุอันสมควร
การยกเว้นการใช้ การประกันภัยนี้ไม่คุ้มครอง
1. การใช้รถยนต์นอกอาณาเขตที่คุ้มครอง
2. การใช้รถยนต์ในทางผิดกฎหมาย เช่น ใช้รถยนต์ไปปล้นทรัพย์ ชิงทรัพย์ หรือใช้ขนยาเสพติดไม่ว่าจะมีการดัดแปลงรถหรือไม่ก็ตาม หรือใช้รถยนต์หลบหนีจากการกระทำความผิดทางอาญา หรือหลบหนีการตรวจค้นหรือการจับกุมของเจ้าหน้าที่ เป็นต้น
3. การใช้ในการแข่งขันความเร็ว
4. การใช้รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ หรือรับจ้าง หรือที่ไม่ใช่วัตถุประสงค์เพื่อการใช้ส่วนบุคคล

การยกเว้นการใช้อื่นๆ การประกันภัยนี้ไม่คุ้มครอง
1. การใช้ลากจูงหรือผลักดันรถหรือทรัพย์สินอื่นใด เว้นแต่ รถที่ถูกลากจูงหรือถูกผลักดันได้ประกันภัยไว้กับบริษัทด้วย หรือเป็นรถลากจูงโดยสภาพ หรือรถที่มีระบบห้ามล้อเชื่อมโยงถึงกัน
2. การใช้รถยนต์นอกเหนือจากที่ระบุไว้ในตารางในขณะเกิดอุบัติเหตุ
3. การขับขี่โดยผู้เอาประกันภัยในขณะขับขี่ให้ถือว่าเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่นตามกฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก ดังนี้
3.1 มีปริมาณแอลกอฮอล์ ในเลือดเกินกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ หรือ
3.2 มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกินกว่า 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ กรณีการขับขี่โดยผู้เอาประกันภัยซึ่งมีอายุต่ำกว่ายี่สิบปีบริบูรณ์ หรือโดยผู้เอาประกันภัยที่มีใบอนุญาตขับรถชั่วคราว หรืออยู่ระหว่างพักใช้ หรือ
3.3 กรณีไม่ยินยอมให้เจ้าพนักงานจราจร พนักงานสอบสวน หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ ทดสอบวัดปริมาณแอลกอฮอล์ จนถูกดำเนินคดีฐานขับรถขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่น ตามกฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก และผู้เอาประกันภัยได้ยอมรับหรือศาลได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดลงโทษในความผิดดังกล่าว
4. การขับขี่โดยผู้เอาประกันภัยซึ่งขณะขับขี่มีสารเสพติดตามกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ หรือมีสารที่ออกฤทธิ์ต่อจิต และประสาทตามกฎหมายว่าด้วยวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทในร่างกาย จนถูกดำเนินคดีตามกฎหมายว่าด้วยจราจรทางบก และผู้เอาประกันภัยได้ยอมรับ หรือศาลได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดลงโทษในความผิดดังกล่าว
5. การขับขี่โดยผู้เอาประกันภัยที่ไม่เคยได้รับใบอนุญาตขับขี่ใด ๆ หรือเคยได้รับ แต่ถูกตัดสิทธิตามกฎหมาย หรือใช้ใบขับขี่รถจักรยานยนต์ไปขับขี่รถยนต์

การยกเว้นรายละเอียดเกี่ยวกับตัวรถยนต์ที่ขับขี่ การประกันภัยนี้ไม่คุ้มครอง
1. รถยนต์ใดๆ ที่ไม่ได้จดทะเบียนเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคลหรือรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล กับกรมการขนส่งทางบก รวมถึงรถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่เกิน 12 ที่นั่ง, รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลที่มีน้ำหนักรวมบรรทุกเกิน 4 ตัน, รถยนต์ที่ดัดแปลงสภาพ มีการติดตั้งอุปกรณ์ เช่น โครงเหล็ก หลังคา หรือมีวัตถุประสงค์เพื่อบรรทุกหรือขนส่ง ผู้โดยสาร หรือ สินค้า
2. รถยนต์สมรรถนะสูง (Super Car หรือ Sport Car) ซึ่งหมายถึง รถยนต์นั่งที่มีการออกแบบเพื่อการใช้งาน โดยมุ่งเน้นด้านความเร็ว ตัวรถมีลักษณะสปอร์ต ใช้เทคโนโลยีในการผลิตขั้นสูง ขีดความสามารถของเครื่องยนต์อยู่ในระดับสูง โดยมีตัวอย่างคุณลักษณะดังต่อไปนี้ประกอบด้วย ได่แก่
ก) เป็นรถยนต์ที่มีจำนวนประตูน้อยกว่า 4 ประตู
ข) เครื่องยนต์ขนาดตั้งแต่ 2,000 ลูกบาศก์เซ็นติเมตรขึ้นไป
ค) เครื่องยนต์มีกำลังตั้งแต่ 250 แรงม้าขึ้นไป
ง) น้ำหนักรถน้อยกว่า 2,000 กิโลกรัม
จ) อัตราเร่ง 0- 100 กม./ชม. ได้ภายในเวลา 5 วินาทีหรือน้อยกว่า
ฉ) ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. หรือมากกว่า
ช) ราคาขายในปีแรกจากผู้จัดจำหน่ายตั้งแต่ 5,000,000 บาทขึ้นไป